banner_UK

วันอังคารที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2552

เทคนิคการเลือกซื้ออ่างล้างหน้า



อ่างล้างหน้า ก็เช่นกันครับ ใช้เทคนิคเดียวกับชักโครก คือ ท่านต้องขอ Dimension เพื่อทราบระยะห่างจากผนังมาถึงรูท่อระบายว่ามีระยะเท่าไหร่ เพราะปัญหาไม่ได้อยู่ที่การติดตั้งครับอ่างล้างหน้าครับ แต่ปัญหาจะไปอยู่ที่การซื้อท่อน้ำทิ้งครับ ซึ่งจะมีอยู่ 2 แบบ คือ แบบกระปุก และแบบตัวพี(พีแทร็ป)
ท่อน้ำทิ้งแบบกระปุก มีข้อดี คือ ราคาถูกกว่าแบบพีแทร็ป การติดตั้งง่ายกว่า แต่ข้อเสียคือ ไม่สามารถกันกลิ่นจากท่อระบายออกมาทางสะดืออ่างได้ ฉะนั้น หากท่านเลือกใช้ท่อแบบกระปุก ควรจะใช้สะดืออ่างแบบไอโฟ่ คือ ฝาปิดมีแกนติดอยู่กับตัวรังดุมสะดือ ทำให้เวลาน้ำไหลลงจากอ่างล้างหน้าจะพาเอาฝาปิดปิดสะดืออ่างลงไปด้วย สามารถปิดกั้นกลิ่นจากท่อ อีกประการหนึ่งก็คือ ท่อชาร์ป(ท่อตรงๆที่ต่อจากผนังมาหาตัวกระปุก) ส่วนใหญ่จะมีขนาดสั้น ใช้ได้สำหรับอ่างล้างหน้าขนาดเล็ก รุ่นประหยัด หากท่านเลือกซื้ออ่างบล้างหน้าขนาดใหญ่กว่ารุ่นประหยัด แล้วท่านซื้อท่อน้ำทิ้งแบบกระปุก ท่านจะต้องซื้อท่อชาร์ปขนาด12 นิ้วเพิ่มด้วย มิเช่นนั้น ท่อตรงที่ต่อเข้าผนังจะสั้นไปครับ
ส่วนท่อน้ำทิ้งแบบพีแทร็ป มีข้อดี คือ สามารถกันกลิ่นจากท่อระบายน้ำออกมาทางสะดืออ่างได้ เนื่องจากตรงคอคดรูปตัวพีจะมีระดับต่ำกว่าแนวท่อที่ออกผนัง ทำให้น้ำค้างท่อ ซึ่งท่านต้องเข้าใจก่อนว่าจะท่อแบบตัวพีใช้หลักการน้ำค้างท่อมากันกลิ่น ฉะนั้นถ้าน้ำค้างท่อเกิดเน่าเสียหรือเป็นน้ำที่มีกลิ่นอยู่ ต้องเปิดน้ำระบายลงท่อจนกว่าจะไม่มีกลิ่นนะครับ ไม่ง้านก็เหม็นอยู่ดี
อีกประการหนึ่งในเรื่องอ่างล้างหน้าก็คือ ก๊อกน้ำครับ แบ่งออกได้หลายประเภท จะขอกล่าวในบทต่อไปละกันนะครับ แต่ในที่ท่านต้องทราบก็คือ ก๊อกน้ำ จะต้องใช้กับสายน้ำดี และสต็อปวาล์ ส่วนใหญ่ท่านเจ้าของบ้านจะลืม แล้วก็ปล่อยให้เป็นภาระของช่างผู้ติดตั้งเป็นคนดำเนินการ ซึ่งหากช่างขาดประสบการณ์จะไม่ถามเจ้าของบ้าน ทำให้เสียเวลามาซื้อกันอีกรอบ ก่อให้เกิดปัญหาค่าแรงครับ เพราะถ้าคิดแบบเหมาก็จะเปลืองเวลาช่าง แต่ถ้าคิดแบบเป็นวัน ท่านอาจจะต้องเสียค่าแรงฟรีๆไปวันนึงเพื่อไปซื้ออุปกรณ์ที่ท่านลืม แล้วที่ขาดไม่ได้ก็คือ ทุกอุปกรณ์เกี่ยวกับระบบน้ำ ที่ขาดไม่ได้คือ เทปพันเกลียว กับ กาวน้ำติดท่อพีวีซี

ข้อระวัง!! ก่อนจะซื้อสุขภัณฑ์


ท่านผู้รักการแต่งบ้านครับ การที่เราจะเลือกซื้อสุขภัณฑ์หรือที่ภาษาบ้านๆเราเรียกว่า ชักโครก ถ้าบ้านๆลงไปอีกหน่อยก็ส้วมนั่นแหระครับ ท่านทราบหรือไม่ครับว่า แต่ละดีไซน์ แต่ละรูปลักษณ์นั้น เราอาจจะรู้สึกชอบในดีไซน์ จนลืมนึกถึงสิ่งที่สำคัญมากที่สุดก็คือ เรื่องการนำไปติดตั้งครับ ส่วนใหญ่พนักงานขายที่อยู่ตามห้างร้านต่างๆ ก็มักจะแนะนำถึงรูปลักษณ์ ดีไซน์ ความสดใหม่ อินเทรนด์ ต่างๆนาๆ นับประการ เพื่อให้เรากระหายใคร่อยากจะได้มาครอบครอง แต่ประเด็นสำคัญกลับไม่มีใครแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าทราบ หรือหากจะทราบก็คือแกะกล่องกันไปติดตั้งแล้วติดตั้งไม่ได้ สาเหตุก็มาจาก ท่านไม่ได้ขอดู Dimension หรือขนาดพิกัดระยะห่างจากผนังกำแพงมาถึงจุดกึ่งกลางของท่อระบาย นั่นเอง
กว่าจะรู้ช่างก็ได้แกะสินค้าจนมาทำการติดตั้งแล้ว ทำให้ไม่สามารถเปลี่ยนสินค้าได้ เพราะเท่ากับว่ามีการนำไปใช้แล้ว หรือไม่ก็ถ้าช่างที่ติดตั้งไม่มีความรู้พอ ก็อาจจะติดไปส่งๆให้มันเสร็จๆ โดยไม่ได้สนใจว่าช่องระบายของโถชักโครกจะตรงพอดีกับรูท่อระบายน้ำหรือไม่ เพราะถ้าระยะจากกำแพงมาถึงท่อระบายน้ำ กับระยะของตัวโถสุขภัณฑ์ไม่พอดีกัน แล้วยังฝืนติดตั้งไปก็จะเกิดปัญหาของเสียไม่สามารถถูกระบายลงไปในท่อระบายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เวลากดฟลัชสิ่งปฏิกูลที่มีปริมาณมากแล้วเกิดส้วมอึด ระบายไม่ลง
สำหรับการติดตั้งขอแจ้งนิดนึงครับว่า ชักโครกสมัยนี้ เค้ามีรูให้ยิงสกรูยึดตัวโถชักโครกกับพื้นนะครับ ไม่ใช้เอาไปวางกับพื้น แล้วใช้ปูนซีเมนต์หรือกาวยาแนวมายารอบขอบโถ ทำให้การติดตั้งไม่แน่น และอาจทำให้โถชักโครกล้มแตกได้
แล้วที่สำคัญนะครับอย่าลืมถามทางร้านค้าว่า ชักโครกที่เราซื้อมาน่ะ แถมสายชักโครกมาด้วยหรือป่าว บางรุ่นที่เป็นรุ่นประหยัดส่วนใหญ่จะไม่แถม ถ้าลืมก็ติดได้แต่ชักโครกครับ ใช้งานยังไม่ได้อยู่ดี และตัวสายน้ำดีทุกประเภท ต้องใช้กับตัววาล์วปิดเปิด ท่านต้องถามช่างก่อนว่าเดินท่อน้ำดีมาที่ชักโครกกี่ท่อ ถ้าเดินมาท่อเดียวท่านต้องใช้ วาล์วสามทาง เพื่อต่อเข้ากับสายชักโครกหนึ่งทางและต่อเข้ากับที่ฉีดชำระอีกหนึ่งทาง ครับ แต่ถ้าช่างแจ้งว่าเดินมาสองท่อ ท่านก็ต้องซื้อวาล์วปิดเปิดแบบทางเดียว 2 ตัวครับ
อ้อ! อีกเรื่องที่ลืมบอก และขาดไม่ได้จริงๆก็คือ ปุ่มกดชักโครกครับ บางท่านชอบแต่ดีไซน์ลืมดูปุ่มกด บางรุ่นมีปุ่มกดเดียว บางรุ่นเป็นสองปุ่มกด ประโยชน์ก็คือ ปุ่มเล็กกดชำระน้ำน้อยสำหรับถ่ายเบา ส่วนปุ่มใหญ่สำหรับถ่ายหนัก บางท่านไม่ทราบนึกว่าเป็นดีไซน์ กดมันทั้งสองปุ่มนั่นแหระ ขอเตือนก่อนนะครับว่า ถ้าเกิดแกนปุ่มกดหักท่านจะต้องซื้อใหม่ในราคาอะไหล่ ซึ่งแพงมากกกกกกก ขอบอก!!!

วันพฤหัสบดีที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2552

อะไรอยู่ในห้องน้ำ (บ้าง?)

คบเด็กสร้างบ้าน เป็นวลีอมตะมาตั้งแต่ครั้งโบราณกาล และยังสามารถใช้ได้แม้ในภาวะปัจจุบันนี้นะครับ เพราะบ้าน แทบจะเรียกได้ว่าเป็นความใฝ่ฝันของหนุ่มสาวในยุคไฮเทคว่าอยากจะมีซักหลัง จะแต่งให้สวย ให้เลิศสะแมนแตน แต่ในความเป็นจริง การสร้างบ้าน แต่งบ้าน หรือการคบเด็ก มันเป็นเรื่องปวดหัวพอๆกันจริงๆอย่างที่โบราณท่านกล่าวไว้ ในโอกาสแรกเริ่มทำความรู้จักกัน ผมขอเสนอไฮไลท์ของบ้านก่อนเลยละกันนะครับ นั่นก็คือ ส่วนของห้องน้ำ นั่นเอง
เหตุที่ผมให้ความสำคัญว่า ห้องน้ำเป็นพระเอกของบ้าน ก็เนื่องมาจาก ไม่ว่าจะเป็นเจ้าบ้านหรือแขกเหรื่อที่มาเยี่ยมเยียนบ้าน ห้องน้ำไม่ใช่เป็นแค่เพียงที่ระบายทุกข์อีกต่อไป หากแต่เป็นเสมือนห้องรับแขกที่เจ้าบ้านก็อยากอวด แขกที่มาบ้านก็อยากสำรวจ เพราะสามารถใช้ความเป็นส่วนตัวสำรวจความเป็นตัวตนหรือฐานะของเจ้าของบ้านเป็นอย่างดี ฉะนั้นในปัจจุบัน การพิถีพิถันในการตกแต่งห้องน้ำจึงเรื่องที่เจ้าของบ้านจะให้งบประมาณค่อนข้างสูง ซึ่งปกติแล้วจะอยู่ที่ 10% ของมูลค่าบ้าน หากแต่ปัจจุบันค่านิยมในเรื่องการรักษาภาพลักษณ์ของเจ้าของบ้านนั้นมีสูง อีกทั้งกิจการที่ผลิตสินค้าที่ใช้ตกแต่งในห้องน้ำก็ได้วางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ที่เปลี่ยนไป จากแค่ความจำเป็นในเรื่องการบำบัดทุกข์ เพิ่มเป็นบำรุงสุขด้วย จากนั้นยังไม่พอ เสริมเรื่องสุนทรียแห่งการบำบัดด้วยออฟชั่นต่างๆ จนแทบลืมความจำเป็นพื้นฐานของห้องน้ำไปเลย
เอาล่ะครับพร่ามมาซะยาว ก่อนอื่นสำหรับท่านที่กำลังจะเลือกซื้อบ้านไม่ว่าจะเป็นการซื้อบ้านสำเร็จรูป หรือบ้านโครงการที่กำลังสร้าง รวมถึงผู้ที่สร้างบ้านเองและผู้ที่กำลังตกแต่งห้องน้ำใหม่ ผมจะเริ่มแนะนำส่วนประกอบของห้องน้ำก่อนเลยนะครับ
อันดับแรกเลย คือ ประตูห้องน้ำ ครับ เพราะหลายท่านไม่ได้นึกถึงครับ มัวแต่สนใจสิ่งที่อยู่ในห้องน้ำแต่สิ่งที่เป็นปราการด่านแรก กลับไม่ได้ให้ความสำคัญ ซึ่งปราการด่านนี้ ถึงแม้ผู้มาเยือนบ้านเราจะไม่ได้สัมผัสภายในห้องน้ำ หากแต่เห็นแค่ประตูห้องน้ำก็สามารถประเมินภาพลักษณ์เจ้าของบ้านได้คร่าวๆ รวมถึงสามารถวิเคราะห์ไปถึงวัสดุภายในห้องน้ำได้ เฉกเช่นหน้าปกหนังสืออย่างไรอย่างนั้น ถ้าหน้าปกไม่น่าเชิญชวน ถึงเนื้อหาภายในจะดีเพียงใด ก็อาจถูกมองข้ามไป
อันดับสองคือ โถสุขภัณฑ์ ครับ เพราะเมื่อกล่าวถึงห้องน้ำ แน่นอนพระเอกของห้องน้ำต้องเป็นที่ระบายทุกข์ เมื่อบำบัดทุกข์ไปได้แล้ว จึงจะเริ่มมองหาสิ่งบำรุงสุขต่อไปในห้องน้ำ ซึ่งจะกล่าวคร่าวๆปูพื้นฐานเบื้องต้นไปก่อนนะครับว่า สุขภัณฑ์นั้น ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 3-4 ชนิด ดังนี้
- โถนั่งยอง เด็กยุคใหม่อาจจะไม่ค่อยรู้จัก ภาษาช่างจะเรียกว่าหัวส้วม เนื่องจากสมัยก่อนจะเป็นส้วมซึม ก่อโดยใช้ท่อกลมแล้วปิดด้วยฝากลมมีรูตรงกลางเพื่อให้ใส่ตัวโถส้วมแบบนั่งยอง จึงเรียกว่า หัวส้วม ซึ่งจะมีสองแบบ คือ แบบมีฐาน และ ไม่มีฐาน ส่วนออฟชั่นเรื่องระบบชำระล้างแบบกดฟลัช หรือ ตักราด ไม่ขอกล่าวแบบแยกเป็นอีกประเภทละกันครับ
- โถชักโครก มีให้เห็นในยุคปัจจุบันกันเยอะมาก เนื่องจากเป็นนวตกรรมแก้ไขข้อบกพร่องจากการนั่งยอง ทำให้เกิดอาการเหน็บชา ซึ่งเกิดจากกรณีนั่งนาน หรือใช้กล้ามเนื้อขามาก นอกจากนี้ก็เป็นการเอาใจคนอ้วนหรือผู้ป่วยข้อกระดูกเข่า ซึ่งโถชักโครกจะทำให้นั่งสบายขึ้นโดยจะนั่งราบไปกับฝารองนั่งเหมือนนั่งเก้าอี้ การแบ่งประเภทโถชักโครก ก็แบ่งได้เป็น 3 แบบคือ แบบนั่งราบตักราด(ไม่มีถังน้ำกดชำระด้านหลัง) แบบมีถังพักแยก( 2 ส่วน ส่วนโถและส่วนถังน้ำ) แบบชิ้นเดียว คือ ตัวโถกับถังพักทำเป็นชิ้นเดียวกัน ส่วนแบบอื่นก็จะเพิ่มเป็นออฟชั่นกดทีเดียว กดสองระบบ(เบา/หนัก) หรือไม่ก็ปุ่มกดอยู่ข้าง อยู่หน้าถังพัก หรืออยู่บน
อันดับสาม คือ อ่างล้างหน้า ซึ่งจริงๆแล้วก็ไม่ได้แบ่งประเภทกัน หากแต่ในการติดตั้ง ขึ้นอยู่กับการออกแบบและลูกเล่นของการวางตำแหน่งอ่างล้างหน้า จึงได้ทำการติดตั้งต้องวางแผนก่อน ผู้ผลิตจึงได้ยึดถือเกณฑ์การติดตั้งมาเป็นตัวแบ่ง ได้แก่ แบบแขวนผนัง แบบฝังเคาท์เตอร์ แบบฝังใต้เคาเตอร์ แบบวางบนเคาท์เตอร์ หลักๆก็มีเท่านี้ ที่เหลือก็เป็นดีไซน์
อันดับสี่ คือ โถปัสสาวะ ซึ่งปัจจุบันจะมีโถปัสสาวะหญิงด้วยเพื่อสะดวกในการทำธุระแบบเร่งรีบ รวมถึงเรื่องการประหยัดน้ำ เนื่องจากการปัสสาวะย่อมใช้น้ำชำระล้างน้อยกว่า การขับถ่ายแน่นอน ในที่นี้ไม่ขอกล่าวแยกเป็นประเภท ขึ้นอยู่ดีไซน์ที่ชอบเป็นหลัก
อันดับห้า ที่อาบน้ำ มีแบบนอนอาบในอ่างอาบน้ำ กับ ยืนอาบ ถ้าประเภทนอนอาบก็จะมีอ่างอาบน้ำให้เลือกหลากดีไซน์ แต่แบ่งได้ 3 ระบบ คือ อ่างธรรมดา อ่างมีระบบน้ำวน และอ่างสปา(มีระบบอัดอากาศ) ถ้าเป็นแบบยืนอาบ ก็จะเป็นการเน้นที่ ฝักบัวอาบน้ำ ซึ่งมีทั้งแบบ ธรรมดา และแบบเรนชาวเวอร์(เป็นจานกะทะใหญ่เหมือนฝนตก) ที่เหลือก็จะเป็นดีไซน์กับระบบการปรับแรงดันน้ำให้น้ำออกแบบรวมตัวหรือกระจาย สุดแล้วแต่
ที่กล่าวมาข้างต้นนี้ เป็นแค่เพียงวัสดุประธาน หรือวัสดุหลักๆที่ต้องกำหนดให้ตายตัว เนื่องจากมีผลกับระบบการเดินท่อน้ำทิ้งและท่อน้ำดี รวมถึงระยะห่างจากกำแพงของการติดตั้งวัสดุแต่ละชิ้นก็ต้องประสานงานกับช่างที่ติดตั้งอย่างใกล้ชิด มิฉะนั้นแล้วไม่ช่างก่อสร้างก็เจ้าของบ้านนั่นล่ะที่ต้องลมออกหูเวลาติดตั้ง เพราะวัสดุประธานเหล่านี้ ท่านเจ้าของบ้านต้องเตรียมไดเมนชั่นหรือภาพวัสดุที่บ่งบอกถึงพิกัดขนาด รวมถึงเอกสารคู่มือการติดตั้งให้ช่างด้วย ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะดูแค่ดีไซน์สวย ชอบ อยากได้ ก็เลยซื้อมา ไม่ทันได้วางแผนกับช่างก่อสร้างไว้ก่อนว่า เดินท่อระบบสุขาภิบาลไว้รองรับกับวัสดุหลักไว้หรือไม่ เว้นแต่ เป็นกรณีที่ได้มีแบบก่อสร้างที่ตายตัวและระบุถึงรุ่นของวัสดุไว้แล้ว จึงจะสามารถเทียบเคียงกันได้ และจะเกิดข้อผิดพลาดในการติดตั้งค่อนข้างน้อย
เท่าที่กล่าวมานี้ ก็พอหอมปากหอมคอนะครับ รายละเอียดที่ลึกกว่านี้ สามารถขอได้ตามร้านขายวัสดุตกแต่งทั่วไปครับ โรงงานผู้ผลิตจะเตรียมเอกสารไว้ให้กับร้านค้าตัวแทนจำหน่ายแล้ว ท่านสามารถขอได้ฟรี ไม่จำเป็นว่าจะซื้อแล้วถึงจะขอได้ ถึงไม่ซื้อก็สามารถขอได้ครับ เพราะเป็นเอกสารของทางโรงงาน ร้านค้าไม่ได้มีค่าใช้จ่ายในการหาเอกสาร ในบทต่อไปจะกล่าวถึงวัสดุที่เป็นเพื่อนพระเอกนะครับ ต้องมาคู่กับพระเอก เพราะเจ้าของบ้านส่วนใหญ่ไม่ทันได้นึกถึง สำหรับบทนี้ทักทายกันแต่เพียงเท่านั้นก่อนนะครับ อย่าเพิ่งปวดหัวไปซะก่อน